กัญชง: ขั้นตอนขออนุญาตปลูก-เอกสารที่ต้องเตรียม เช็กที่นี่!

Last updated: 10 ต.ค. 2564  |  8759 จำนวนผู้เข้าชม  | 

กัญชง

เปิดขั้นตอนและเอกสารที่ต้องเตรียมอย่างละเอียด สำหรับผู้ที่จะขออนุญาตปลูกกัญชง ซึ่งจะเริ่มเปิดให้ขออนุญาตได้ตั้งแต่พรุ่งนี้ (29 ม.ค.) เป็นต้นไป 

วันที่ 28 มกราคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานกรณี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงสาธารณสุข ลงนามในกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 5 เฉพาะกัญชง (Hemp) พ.ศ. 2563 ซึ่งจะมีผลใช้บังคับในวันพรุ่งนี้ (29 ม.ค.) ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ภญ. สุภัทรา บุญเสริม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า ภายใต้กฎกระทรวงฉบับนี้สามารถขออนุญาตส่งออกกัญชงได้ และภายใน 5 ปี นับแต่วันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับ สามารถนำเข้าเมล็ดพันธุ์เพื่อนำมาปลูกได้อีกเช่นกัน

โดยผู้ที่ต้องการขออนุญาตให้ยื่นคำขอ ณ สถานที่ปลูกที่ตั้งอยู่ หากอยู่ที่กรุงเทพฯ ให้ยื่นที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) หากอยู่ต่างจังหวัดให้ยื่นที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ส่วนผู้ขอนำเข้าเมล็ดพันธุ์กัญชง ให้ยื่นคำขอที่ อย.

ใครที่สามารถขออนุญาตปลูกกัญชงได้บ้าง?
          1.เกษตรกร
          2.วิสาหกิจชุมชน สหกรณ์
          3.ประชาชนทั่วไป
          4.นิติบุคคลสัญชาติไทย
          5.หน่วยงานรัฐ-เอกชน

 

ทั้งนี้ ครัวเรือนที่มีวัฒนธรรมในการใช้กัญชงเป็นสิ่งทอแบบดั้งเดิมสามารถปลูกกัญชงในครัวเรือนได้ โดยปลูกได้ครัวเรือนละไม่เกิน 1 ไร่ โดยต้องมีใบอนุญาตในการปลูก และปลูกสายพันธุ์ที่ได้รับอนุญาต เพื่อส่งเสริมการปลูกและการพัฒนาสายพันธุ์กัญชงของไทย

 

ขั้นตอนการขออนุญาตปลูก “กัญชง”

กรณีผู้ขอนำเข้า (เมล็ดพันธ์ุกัญชง) 
เอกสารที่ต้องเตรียม
     1.แบบคำขอรับอนุญาต (แบบกัญชง 3)
     2.แผนการนำเข้า แผนการใช้ประโยชน์
     3.ใบรับรองของผู้ผลิตในต่างประเทศ
     4.เอกสารหรือหลักฐานเพิ่มเติมอื่นๆ

     จากนั้นนำเอกสารไปยื่นคำขอรับอนุญาต ณ กองควบคุมวัตถุเสพติด สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบคำขอแล้วจะเสนอคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษพิจารณา ก่อนออกใบอนุญาตต่อไป

 

กรณีผู้ขอผลิต (โดยการปลูก)
เอกสารที่ต้องเตรียม
     1.แบบคำขอรับอนุญาต (แบบกัญชง 1)
     2.แผนการผลิต แผนการใช้ประโยชน์
     3.แผนที่แสดงที่ตั้งสถานที่ปลูกและเส้นทางการเข้าถึง
     4.หนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดินหรือสิทธิครอบครอง
     5.แบบแปลนอาคารโรงเรือน และภาพถ่าย
     6.เอกสารหรือหลักฐานเพิ่มเติมอื่น ๆ

     จากนั้นนำเอกสารไปยื่นคำขอรับอนุญาต

      กรณีสถานที่ปลูกตั้งอยู่กรุงเทพฯ ให้นำเอกสารไปยื่น ณ กองควบคุมวัตถุเสพติด สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข
      กรณีสถานที่ปลูกตั้งอยู่ต่างจังหวัด ให้ไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด
เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบคำขอและสถานที่เรียบร้อยแล้ว จะเสนอคณะกรรมการพิจารณาเพื่อออกใบอนุญาตต่อไป

Powered by MakeWebEasy.com